8)เด็ก/วัยรุ่น ทำนาก็รวยได้

สวัสดีครับ น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ ผม อ.นเรศ สีละมัย มีโอกาสได้อ่านบทความดีเกี่ยวกับ การหาเงินล้าน ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งสิ่งที่บุคคลท่านนี้ทำ คือ การทำนา

ถูกต้องแล้วครับ อาชีพชาวนา ก็สามารถรวยเงินล้านได้ ถ้ารู้จักวิธีบริหารจัดการ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเรียนรู้

เด็ก/วัยรุ่น ทำนาก็รวยได้

ในยุคศตวรรษที่ 20 มีวัยรุ่นไทยมากมายหารายได้ด้วยตัวเองจากการ ขายของผ่านเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ! แต่ก็อย่าเพิ่งเทใจให้การขายของผ่านโซเชียลมีเดียเหล่านี้หมดซะก่อน เพราะ การทำนาก็สามารถ สร้างรายได้เงินล้านได้เหมือนกัน ! ชาวนาวัยรุ่น ที่สามารถสร้างรายได้ กว่า 1 ล้านบาท ต่อการทำนาใน 1 รอบ โดยลงทุนเพียงแค่ 4 พันบาทต่อไร่ ! O.o

ข้อมูล teen.mthai.com อ้างอิง ชาวนาวันหยุด / วิภา voicetv.co.th

ประวัติ ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน

• ชื่อ นายอุทัยพงษ์ เกษธีระกุล อายุ 26 ปี  เริ่มบริหารจัดการนา 130 ไร่ ตั้งแต่อายุ 21 ปี
• พื้นที่นา 130 ไร่ อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
• จบการศึกษาจาก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
• ใช้เทคโนโลยี ต่างๆเข้ามาผสมผสาน
• วิธีการทำนาแบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว

ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน บอก ว่า “การบริหารจัดการนานั้นไม่ยาก เพียงแค่เตรียมดิน-น้ำเข้านา และเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว ส่วนการดูแลข้าวนั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาผสมผสานในการทำนามากขึ้น รวมทั้งยังได้ค้นพบ วิธีการทำนาแบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว จากแฟนเพจ “ชาวนาวันหยุด”มาประยุกต์ใช้ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตสูงกว่า 1 ตันต่อไร่ และได้กำไรต่อไร่กว่าหนึ่งหมื่นบาทโดยลงทุนไปเพียงไร่ละ4 พันบาทเท่านั้น “

ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน มือ อาชีพคนนี้บอกว่า “การทำนายังคงใช้สารเคมีบ้าง แต่ได้พยายามปรับเปลี่ยนและหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ มักมีความคิดว่า ต้องการเห็นผลผลิตหรือการปราบศัตรูพืชที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว จึงยังนิยมใช้สารเคมีอยู่ รวมทั้งในอนาคตอยากเห็นรัฐบาลปลูกฝังแนวคิดใหม่ให้กับเด็กรุ่น ไม่ให้ดูถูกอาชีพการทำนา ที่ผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกินและยังส่งออกสร้างรายได้ ให้กับประเทศชาติอย่างมากอีกด้วย “

อาชีพอิสระ อยู่กับธรรมชาติ และได้ผลตอบแทนดี เป็นคำนิยามของ ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน คน นี้ ที่ให้นิยามกับอาชีพที่รัก โดยหลายคนเข้าใจว่าการเป็นกระดูกสันหลังของชาติจะต้องเหนื่อย ยากลำบากและมีรายได้ไม่มั่นคง ไม่เป็นที่ยกย่องของผู้คน ซึ่งแตกต่างจาก ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน คนนี้อย่างสิ้นเชิง และยังให้แง่คิดว่า ในอนาคตอาชีพชาวนาจะเป็นอาชีพที่รวยมาก !

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://teen.mthai.com/variety/56581.html

7)ไอเดียหาเงินล้านแบบแปลกๆ

สวัสดีครับ ทุกท่าน ผม อ.นเรศ สีละมัย ได้มีโอกาสอ่านบทความดีๆเกี่ยวกับไอเดียหาเงินล้าน
ซึ่งมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ผมเลยนำมาฝากให้ทุกท่านได้อ่านกัน(ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก http://www.richhappily.com )

10 ไอเดียสร้างสรรค์ในการหาเงินล้าน

-->

รวยได้เพราะ layout ของ MySpace
เด็ก สาววัยเพียง 17 ปี ก่อตั้งเว็ปไซด์ของตัวเองขึ้นมาโดยเสนอขาย layout ของ Myspace.com ที่เธอออกแบบเอง เธอสามารถทำเงิน 1 ล้านเหรียญในระยะเวลาไม่ถึงปี ซึ่งเฉลี่ยแล้วเธอมีรายได้ 7 หมื่นเหรียญต่อเดือน และเว็ปของเธอมีผู้เข้าชมถึง 7 ล้านคนต่อเดือน และมีผู้เข้าชมแล้วกว่า 60 ล้านคน …คนจะรวยช่วยไม่ได้จริงๆ

รวยด้วย หมึกพิมพ์
ผู้ ก่อตั้งคือ บาทหลวง Bernard McCoy ซึ่งเป็นผู้ขายหมึกพิมพ์ทางเน็ตรายใหญ่ มีลูกค้ามากมายทั้งโรงเรียน, โบสถ์, และบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ต่างๆ จากปีแรกที่ก่อตั้งในปี 2002 รายได้อยู่ที่ 2,000 เหรียญ กระโดดไปเป็น 2.5 ล้านเหรียญในปี 2005 ด้วยราคาหมึกที่ถูกกว่าที่อื่น เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสมัยก่อนบาทหลวงหมึกหมดแล้วพยายามหาร้านที่ขายถูกๆ แต่ก็ไม่มีเลยคิดจะขายซะเอง

รวยได้เพราะ โปรแกรมจดหมายลางาน
บริษัท หัวใสทำโปรแกรมตัวอย่างจดหมายลางานและขาดเรียนขึ้น โดยที่มีข้อความลางานและขาดเรียนให้เลือกมากมายและราคาของจดหมายแต่ละฉบับ อยู่ที่ 25 เหรียญ จดหมายแต่ละฉบับไม่ธรรมดา ด้วยข้อความลาหยุดที่สวย หรู น่าเชื่อถือ รับรองด้วยว่าเจ้านายทุกคนต้องเชื่อ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของลงทุนไปเพียง 300 เหรียญและตอนนี้ยอดคนเข้าชมก็มีกว่า 15,000 คนต่อเดือน

รวยได้จาก pixel บนเว็ปไซด์
ใน ปี 2005 นักเรียนชาวอังกฤษวัย 21 ชื่อ Alex Tew เปิดตัวเว็ปเงินล้านของเค้า ซึ่งขาย pixel ขนาดตาราง 1000x1000 ที่ราคา 1 เหรียญต่อตาราง มันเป็นอะไรที่พื้นมากๆแต่ขายดีเกินคาดเพราะภายในไม่กี่เดือนเค้าขายได้ถึง 1,037,100 เหรียญ

รวยเพราะ หมอนที่ใส่ไมโครเวฟได้
Kim Levine มี ไอเดียที่จะทำหมอนที่ให้ความอบอุ่นได้ โดยตอนแรกที่เธอทำเธอเอาเม็ดข้าวโพดมาใส่ปลอกหมอนแล้วนำไปอุ่น ก็ใช้ดีเหมาะกับตอนอากาศหนาว เธอเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและเริ่มผลิตอย่างจริงจัง จากธุรกิจเล็กๆตอนนี้กลายเป็นอาณาจักรหมอนอุ่นอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่ชื่น ชอบของเด็กๆมาก

รวยเพราะ กระดูกขอพรพลาสติก
Ken Ahroni มักจะหัวเสียบ่อยๆเมื่อถึงวันขอบคุณพระเจ้า เพราะทั้งโต๊ะอาหารจะมีเพียง 2 คน ที่จะได้กินไก่งวงแล้วเจอกระดูกลักษณะพิเศษที่ทางฝรั่งเชื่อว่าหากขอพรกับ กระดูกนี้ก็จะสมหวัง เค้าอยากให้ทุกคนได้ขอพรกันถ้วนหน้าจึงมีไอเดียทำมันขึ้นมาเลยจากยางชนิด พิเศษที่ลักษณะและสีสันเหมือนกระดูกของจริง ไม่อยากจะเชื่อว่ามันขายดีมากๆ! ยอดขายก็ชิวๆ แค่ประมาณ 2.5 ล้านเหรียญต่อปี!

รวยเพราะ แว่นสำหรับสุนัข
ทำไม สุนัขถึงจะใส่แว่นไม่ได้ ฝรั่งชอบเอาสุนัขออกไปเดินเล่นเวลามีแดด (คนเมืองหนาวจะชอบแดดมั่กๆ) เพราะฉะนั้นการที่สุนัขใส่แว่นก็จะช่วนถนอมสายตาของมันเหมือนกันแถมเท่ห์อีก ต่างหาก! เมื่อผลิตออกมามันกลายเป็นสินค้าสุดฮิตทันที ได้ไปออกรายการมากมาย จนตอนนี้ผู้ผลิตเพิ่ม product line อื่นๆ อีกเช่น หมวก และเสื้อผ้า ฯลฯ รวยไม่รู้เรื่องเลย

รวยเพราะ แยมของคุณย่า
ต่าง จากเศรษฐีใหม่อื่นๆในปัจจุบันที่รวยได้ด้วยเว็ป Fraser Doherty ใช้วิธีบ้านๆโดยเอาสูตรแยมผลไม้ของคุณย่ามาทำขาย โดยที่เค้าเริ่มทำตอนเค้าอายุเพียง 14 ปี และตั้งบริษัท Super Jam ตอนอายุ 16 ปี ปัจจุบัน Super Jam ครองสัดส่วนในตลาดอังกฤษถึง 10%!

รวยเพราะ กวาดอึสุนัข
Matthew Osborn เกิด ไอเดียแจ่มๆแบบนี้ตอนที่เค้าจูงหมาไปเดินเล่นและเห็นคนต้องมาคอยนั่งเก็บอึ สุนัขของตัวเอง โดยที่ขณะนั้นเค้าทำงานได้เงินชั่วโมงละ 6 เหรียญ เอง เค้าศึกษาความเป็นไปได้และดูแล้วธุรกิจน่าจะรุ่งจึงยึดสวนสาธารณะนี้ในรัฐ โอไฮโอเป็นจุดหากิน โดยที่เค้าจะคอยตามเก็บอึของสุนัขของลูกค้าเค้าตลอดเวลาที่ลูกค้าพาสุนัขมา เดินเล่นที่สวนนี้ อย่าเพิ่งดูถูกนะเพราะสวนนี้ใหญ่มากและรอบๆบริเวณนี้มีสุนัขที่มีเจ้า ของกว่า 1 แสนตัวเลยทีเดียว

รวยจาก เว็ปมีชู้
คำขวัญของเว็ปนี้คือ “ชีวิตสั้นนัก มีชู้กันเถอะ” เจ้าของเว็ปนี้คือตุลาการศาลชื่อ Noel Biderman ผู้ซึ่งมีครอบครัวอันอบอุ่น แต่คิดแผลงๆที่จะทำเว็ปนี้ขึ้นมาเพื่อจับคู่คบชู้ ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกแล้วกว่า 3.3 ล้านคน!! คุณสมัครแล้วหรือยัง?

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://blog.eduzones.com/magazine/85004

เป็นไงกันบ้างครับ 10 ไอเดียเจ๋งๆแบบนี้ พอจะเป็นแนวทางให้น้องได้สามารถรู้วิธีหาเงินล้านได้หรือยัง

ขอให้มีความสุขในการเรียนรู้นะครับ



ขอให้มีความสุขในการเรียนรู้นะครับ

อ.นเรศ สีละมัย
http://www.coursetorich.com

6)เด็ก/วัยรุ่นก็รวยได้ ถ้ารู้วิธี

สวัสดีครับ น้องๆที่น่ารัก ที่เปิดเข้ามาเจอ Blog รวยเงินล้านระหว่างเรียน 

ซึ่ง ผม อ.นเรศ สีละมัย เป็นคนดูแล

วันนี้ พี่มีเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับน้องๆวัยรุ่นครับ พอดีกำลังค้นหาบทความเกี่ยวกับวัยรุ่นแล้วไปเจอกับบทความที่น่าสนใจ เลยขอเอามาแบ่งปันให้กับน้องๆได้อ่านกัน 

-->

วัยรุ่นรวยได้แค่ "ออมเงิน" เป็น

           สวัสดีค่าสาวๆ NUGIRL ทุกคนเลย^^ สาวๆ เคยรู้สึกบ้างมั้ยคะว่าช่วงนี้เราใช้เงินเยอะมาก มากจนไม่มีเงินเก็บเลย หรือบางคนอาจถึงขั้นรายจ่ายไม่สมดุลกับรายได้ จนต้องขอเงินคุณพ่อคุณแม่เพิ่ม! ถ้า เป็นแบบนี้ล่ะก็ เรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤตแล้วค่ะ วันนี้พี่เตยมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะมาช่วยให้สาวๆ จัดสรรรายจ่าย แถมยังช่วยให้มีเงินเก็บด้วย! พลาดไม่ได้แล้วค่า ^^


ก่อน อื่น เราต้องสำรวจก่อนว่าเราได้เงินค่าขนมอย่างไร  บางคนอาจจะได้เป็นวัน บางคนได้เป็นสัปดาห์ บางคนอาจจะได้เป็นเดือน แต่วิธีออมเงินมักจะไม่ต่างกัน คือ “ออมเงินให้ได้ (อย่างน้อย) 20% ของรายได้” เช่น

สมมติว่า...

ได้เงินวันละ 100 บาท
เราจะออมเงินได้ วันละ 20 บาท
(1 เดือนมี 30 วัน : 30 X 20 = 600 บาท)

ได้เงินสัปดาห์ละ 1,000 บา
เราจะออมเงินได้สัปดาห์ละ 200 บาท
(1 เดือนมี 4 สัปดาห์ : 200 X 4 = 800 บาท)

ได้เงินเดือนละ 10,000 บาท
เราจะออมเงินได้เดือนละ 2,000 บาท


หลังจากที่เก็บเงินได้ใน 1 เดือนแล้ว นำไปฝากธนาคารเลยค่ะ เพราะถ้าเก็บเงินไว้ที่ตัว ซักพักเราต้องเผลอใช้เงินจำนวนนั้นแน่ๆ > <

** การออมเงินควรออมตามปริมาณรายรับที่เราได้ค่ะ ใครได้ค่าขนมมากก็ออมมากหน่อย ส่วนใครที่ได้ค่าขนมน้อย ก็ออมน้อย อย่าไปคิดว่าเงินจำนวนนี้ดูน้อยจัง เชื่อพี่เตยเถอะว่าถ้าเราเก็บออมไปเรื่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย เงินที่ดูเหมือนน้อย ซักวันจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาค่ะ


How to save money for teens!

         ใครที่คิดว่าวัยรุ่นวัยเรียนหนังสือแบบเราจะเก็บเงินไม่ได้ ต้องรีบเปลี่ยนความคิดแล้วค่า สาวๆ หลายคนอาจจะเกิดคำถามตามมาว่า “แล้วเราจะออมเงินได้ยังไง ในเมื่อเรายังไม่มีรายได้!” งั้นตามพี่เตยมาดูกันเลยค่ะ แล้วน้องๆ จะเชื่อพี่เตยเองว่าวัยรุ่นแบบเราก็สามารถออมเงินได้เหมือนกัน :’D


เปิดบัญชี

เปิดบัญชีออมทรัพย์ใหม่หนึ่งบัญชีเลยค่ะ (ถ้าเป็นไปได้เปิดบัญชีฝากประจำได้ยิ่งดี จะได้เป็นการบังคับตัวเองให้ออมเงินไปในตัว^^) แต่ข้อสำคัญคือห้ามทำบัตรเอทีเอ็มนะ คะ เพราะถ้าเราฝากเงิน แต่ดันมีบัตรเอทีเอ็มในมือ ความพยายามที่ตั้งใจจะเก็บเงินมีอันต้องพังไม่เป็นท่าแน่ๆ เพราะเราจะกดเงินเมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้ เพราะงั้นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ห้ามทำบัตรเอทีเอ็มเด็ดขาด!


ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

ตั้งแต่ เด็ก พี่เตยมักจะเห็นคุณแม่จดอะไรซักอย่างในสมุดเสมอๆ พอโตขึ้นมาถึงรู้ว่า อ๋อ คุณแม่เราทำรายรับรายจ่ายนั่นเอง อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งมองว่าไร้สาระหรือมีแต่เด็กๆ ชั้นประถมเท่านั้นที่ต้องทำนะคะสาวๆ เพราะการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยเตือนสติว่าในหนึ่งวันเนี่ย เราหมดเงินไปกับอะไรบ้าง การทำรายรับรายจ่ายเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนพฤติกรรมของเราว่าอุปนิสัยการ ใช้จ่ายของเราเป็นยังไง เราหมดเงินไปกับอะไรมากที่สุด เมื่อเรามองเห็นพฤติกรรมของตัวเอง เราก็จะสามารถปรับนิสัยที่ไม่ดีในการใช้เงินของตัวเองได้ และสามารถสร้างวินัยทางการเงินได้ด้วยค่ะ

อย่าพกเงินมากๆ ไว้กับตัว

ข้อ นี้เบสิกสุดๆ ค่ะ แต่ทำได้ยากเหลือเกิน ถ้าเกิดเพื่อนๆ นัดเราออกไปเจอกันตามห้างสรรพสินค้า สาวๆ อาจจะพกเงินไปแค่สามร้อยก็พอค่ะ เป็นค่ารถซักร้อยนึง อีกสองร้อยไว้เป็นค่าอาหารกับค่าขนม ถ้าเพื่อนๆ ชวนไปเดินดูของ สาวๆก็ต้องข่มใจไว้ เพราะในตัวมีเงินแค่สามร้อย ถ้าเอามาซื้อของหมดก็ไม่มีค่ารถกลับบ้านน้า > < เห็นมั้ยคะ พอไม่มีเงิน ก็ทำให้เราประหยัดได้แน่ๆ จ้า ^^


ทำงาน Part time

สำหรับ สาวๆ บางคนที่อยากหาประสบการณ์และอยากหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอม พี่เตยแนะนำให้ลองไปทำงานตามร้านต่างๆ ดูค่ะ อาจจะเป็นร้านพิซซ่า แมคโดนัลด์ ร้านกาแฟ ร้านหนังสือก็ได้ นอกจากจะฝึกความอดทนให้เราแล้ว เรายังได้เงินค่าขนมมาเพิ่มอีกด้วย พอได้เงินนส่วนนั้นมาก็เอาส่วนนึงไปฝากธนาคาร อีกส่วนเอาไปให้คุณพ่อคุณแม่ ^^


เอาเสื้อผ้าเก่าของตัวเองมาขายใน facebook

ข้อนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบชอปปิ้งจนมีเสื้อผ้าเต็มตู้ (แต่บางคนเปิดตู้เสื้อผ้ามาแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะใส่อยู่ดี ^^’’ บางทีพี่เตยก็เป็นนะ 55555) ว่างๆ สาวๆ ลองคัดเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ออกมา แล้วจัดการเปิดเพจใน facebook แล้วขายของเลย! ตัวไหนยังสภาพดี ไม่ค่อยได้ใส่ก็ขายราคาสูงนิดนึง ส่วนตัวไหนใส่บ่อยจนเบื่อก็อาจจะขายถูกกว่าตัวอื่นหน่อย ^^ พอได้เงินมาก็เก็บเข้าบัญชีธนาคารโลดดด รับรองว่าสาวๆ ต้องได้เงินเยอะแน่ๆ


เก็บแบงค์ 50

เทคนิคนี้พี่เตยได้มาจากกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง pantip.com ค่ะ เป็นวิธีการออมเงินแบบง่ายๆ เมื่อใดก็ตามที่เราใช้จ่ายเงินด้วยธนบัตรแล้วได้ “แบงค์50” มา ให้เราเก็บไว้ค่ะ พี่เตยลองทำดูแล้ว ได้ผลมากๆ เลย > < เดือนที่ผ่านมาพี่เตยมีเงินไปฝากธนาคาร 700 บาทแน่ะ! :’D (700 บาทจากการเก็บแบงค์ 50 อย่างเดียวเลยนะคะ!) ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องเก็บ “แบงค์ 50” นั่นก็เป็นเพราะว่าในการใช้จ่ายวันๆ นึง โอกาสที่เราจะได้แบงค์ 50 มานั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่เราจะใช้กันแต่แบงค์20 แบงค์100 แบงค์ 500 และแบงค์ 1,000 อีกเหตุผลนึงก็คือเงินจำนวน 50 บาทนั้นไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไปสำหรับการออมเงินนั่นเองค่ะ ต่อไปนี้เมื่อสาวๆ ได้ตังค์ทอนมาเป็นแบงค์50 ก็อย่าลืมเก็บเข้ากระปุกนะคะ ^^


Tips*

วันนี้ พี่เตยมีอีกหลายเทคนิคที่จะช่วยสาวๆ ประหยัดเงินได้อีกมากโขมาฝากสาวๆ กันค่ะ รับรองว่าถ้าสาวๆ ทำได้ สาวๆ จะมีเงินเก็บอีกเยอะเลยค่ะ (:


อย่าเข้าไปดูเว็บพรีออเดอร์

เว็บพรีออเดอร์ทั้งเสื้อผ้า Skincare และเครื่องสำอาง เว็บพรีออเดอร์เป็นแหล่งดูดเงินชั้นดี > < ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าเผลอคลิ๊กเข้าไปดูเชียว กดเข้าไปดูทีไร เสียเงินทุกทีT_T การเข้าไปดูเว็บไซต์พรีออเดอร์พวกนี้จะทำให้เราตัดสินใจซื้อของง่ายขึ้น ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า^^


เดินแทนการขึ้นมอเตอร์ไซค์

สำหรับบางคนอาจจะต้องนั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้าแล้วไปต่อมอเตอร์ไซค์เพื่อเข้าไปโรงเรียนหรือมหา’ลัย พี่เตยขอแนะว่าให้สาวๆ ลองตื่นเช้าขึ้นอีกนิดนึง เพื่อจะได้ไปถึงที่หมายให้เร็วขึ้นแล้วใช้วิธีการเดินแทนการขึ้นมอเตอร์ไซค์ ในกรณีที่ระยะทางสามารถเดินได้ เพราะ 10 บาท 20 บาทก็เป็นเงินน้า > < เดี๋ยวนี้พี่เตยก็ไม่นั่งมอเตอร์ไซค์เลย เดินลูกเดียว นอกจากประหยัดแล้วยังได้ออกกำลังกายอีกด้วยค่า


คูปอง/ใบปลิว

ปกติแล้วมักจะมีคนมาเดินแจกใบปลิวที่เป็นคูปองส่วนลดอาหาร ได้มาปุ้บห้ามทิ้งเด็ดขาดนะคะ! เพราะพวกส่วนลดเนี่ยแหละทำให้เราประหยัดเงินได้เยอะทีเดียว บางที่อ่านจะเป็นซื้อ 1 ชุด แถมฟรีโค้กและเฟร้นช์ฟราย อีกที่อาจจะเป็นลดราคา 50% เลยทีเดียว! เพราะฉะนั้นห้ามทิ้งเด็ดขาดนะคะ ^^ (แต่อย่าลืมดูวันหมดเขตด้วยล่ะ จะได้จัดสรรเวลาได้ถูก)


เลือกใช้แพคเกจมือถือ

เดี๋ยว นี้ค่ายมือถือมักมีโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของเราได้อย่างคุ้มค่า  สาวๆ สามารถเลือกโปรโมชั่นต่างๆ ได้ตามการใช้งานของตัวเอง ใครชอบคุยเยอะก็เลือกแบบโทรฟรีในเครือข่ายหรือโทรฟรี 500 นาที เป็นต้น ส่วนใครชอบเล่นเน็ตในมือถือก็อาจจะเลือกแบบอันลิมิต จะได้เล่นอินเตอร์เน็ตได้แบบกระหน่ำให้สะใจตามความชอบของตัวเอง แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้ด้วยนะ : )

ออมก่อน ใช้ทีหลัง

เมื่อได้เงินค่าขนมมาปุ้บ สิ่งแรกที่เราควรทำคือหักเงินออมออกทันที อย่าคิดว่าเดี๋ยวเหลือแล้วค่อยเก็บ เชื่อพี่เตยเถอะว่ามันจะไม่เหลือให้เราเก็บหรอกค่า เพราะงั้นรีบแบ่งเงินออกมาแล้วฝากเข้าธนาคารเลยจะดีที่สุดค่ะ

        หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว สาวๆ อย่าลืมไปลองทำบัญชีรายรับรายจ่าย ไปเปิดสมุดบัญชีธนาคาร แล้วก็อย่าลืมออมเงินด้วยนะคะ ^^ ยิ่งออมเร็ว ยิ่งรวยเร็ว ยิ่งสบายเร็วค่ะ ส่วนวันนี้พี่เตยกับคอลัมน์ Girl Advice ต้องไปก่อนนะคะ เจอกันใหม่คราวหน้าเน้อ อย่าลืมแวะเข้าไปดูคอลัมน์ Dress Up : เที่ยว-ช๊อป-ชิล-เดท เก๋ๆ ด้วยเสื้อลายทาง >> Click! วันนี้พี่เตยต้องไปแล้วค่า บ๊ายบายยยยยย

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก :  http://www.dek-d.com/content/nugirl/30965/ 

เป็นไงกันบ้างครับ  น้องๆจะสามารถทำได้ตามหลักการข้างบน น้องต้องเริ่มต้นตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 : ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการออม  หมายความว่า น้องจะออมไปเพื่ออะไร?

- ซื้อนาฬีกา
- ซื้อสร้อย
- ซื้อแหวน
- ซื้อของขวัญวันเกิดให้พ่อแม่
- เพื่อการเป็นเศรษฐี

ขั้นตอนที่ 2 : มีวินัย  หมายความว่า ถ้าน้องขาดวินัย เป้าหมายของน้องก็จะไม่สำเร็จ

ขั้นตอนที่ 3 : มีความซื้อสัตย์ หมายความว่า น้องต้องซื้อสัตย์ต่อตนเองและซื่อสัตย์ต่อเงินออม โดยไม่ไปงัด แงะ แกะเงินออกมาใช้ก่อนจะบรรลุเป้าหมาย


พี่หวังว่า ขั้นตอนทั้ง 3 นี้จะช่วยให้น้องๆสามารถมีเงินล้านได้อย่างแน่นอน  ที่สำคัญคือ 

"เงินล้าน มันเริ่มจากเงิน 1 บาท ไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 1,000,000 บาท" 

เพราะฉะนั้น แม้จะออมเพียงแค่ 1 บาท แต่ถ้าออมทุกวัน เราก็มีโอกาสมีเงินล้านได้อย่างแน่นอนครับ


ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร  ศรัทธาจะนำมาซึ่งความสำเร็จเสมอ

อ.นเรศ สีละมัย
http://www.coursetorich.com

5)จะรวยเงินล้านได้อย่างไร?

How? : จะรวยเงินล้านได้อย่างไร?

-->

          การรวยเงินล้าน มันง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก ขอย้ำนะครับว่า “การรวยเงินล้าน มันง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก(ถ้าน้องรู้วิธีการที่ถูกต้อง)” ทำไม พี่ถึงบังอาจที่จะพูดแบบนี้?

คำตอบ คือ “เพราะพี่ล่วงรู้สุดยอดเคล็ดลับ วิธีการเป็นเศรษฐี(รวยเงินล้าน)” นั่นเอง

          หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะตั้งคำถามว่า “พี่ไปล่วงรู้สุดยอดเคล็ดลับ วิธีการเป็นเศรษฐี ได้อย่างไร?” คำตอบ คือ พี่ล่วงรู้สุดยอดเคล็ดลับ วิธีการเป็นเศรษฐี ผ่านผลงานการวิจัยเชิงคุณภาพ ในหัวข้อ

“ปัจจัย ที่ส่งผลให้ คนจน กลายเป็น คนรวยอย่างมีความสุข”

          ซึ่งเป็นการวิจัยส่วนบุคคล (ออกแบบและดำเนินการวิจัย โดยพี่เอง อ.นเรศ สีละมัย) ซึ่งเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เศรษฐีผู้มีความสุข 100 กว่าคน , การศึกษาหนังสือ/เอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นพันๆเล่ม และการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเป็นเวลาพันๆชั่วโมง.... จนได้ข้อสรุปออกมาเป็น ทฤษฎี : การเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข ดังภาพ

          จากภาพ ทฤษฎี : การเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข ได้แสดงขั้นตอนหรือกระบวนการในการเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุขไว้ทั้งหมด 3 กระบวนการ คือ

          ขั้นตอนที่ 1 : ตั้งเป้าหมาย

          ขั้นตอนที่ 2 : วางแผน

          ขั้นตอนที่ 3 : ลงมือทำ

ซึ่งรายละเอียดในเบื้องต้น จะถูกบรรจุไว้ใน หนังสือ : รวยเงินล้านระหว่างเรียน ที่น้องกำลังเรียนรู้อยู่ ณ ตอนนี้ นั่นเอง  และ เนื้อหาทั้งหมดที่น้องๆจะได้เรียนรู้ พี่ได้แบ่งออกเป็น 9 บทเรียน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ตอน

          ตอนที่ 1 : ทัศนะคติของคนที่จะเป็นเศรษฐี

          เป็นการปูพื้นฐานในการเป็นเศรษฐีให้กับน้องๆซะก่อน ซึ่งทัศนะคติ เป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วยบทเรียนที่สำคัญๆ ดังนี้

          บทเรียนที่ 1 : เด็กนักเรียน ไม่มีเงินทุน(หลักหมื่น – หลักล้าน) ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 2 : เด็กนักเรียน ไม่มีเวลา(ต้องเรียน/อ่านหนังสือ/เล่นดนตรี/กีฬา) ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 3 : เด็กนักเรียน ไม่มีใบปริญญา(ยังเรียนประถม-มัธยม/ปริญญา) ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 4 : เด็กนักเรียน อายุยังน้อยๆ(วุฒิภาวะยังไม่มี/ประสบการณ์ก็ไม่มี) ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 5 : เด็กนักเรียน สุขภาพไม่ดี(ป่วย พิการ..) ก็รวยเงินล้านได้

          ตอนที่ 2 : ความรู้ + ทักษะ + จิตวิญญาณ ของคนที่จะเป็นเศรษฐี

          เป็นภาคของแนวคิดและวิธีการลงมือทำ ซึ่งมีอยู่ 4 ขั้นตอนที่สำคัญคือ การคิด การเขียน การพูด และการลงมือทำ แบบเศรษฐีเงินล้าน นั่นเอง

          บทเรียนที่ 6 : เด็กนักเรียน คิด แบบเศรษฐี คิด ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 7 : เด็กนักเรียน เขียน แบบเศรษฐี เขียน ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 8 : เด็กนักเรียน พูด แบบเศรษฐี พูด ก็รวยเงินล้านได้

          บทเรียนที่ 9 : เด็กนักเรียน ทำ แบบเศรษฐี ทำ ก็รวยเงินล้านได้

          ตอนที่ 3 : กระบวนการของการ “รวยเงินล้าน(ระหว่างเรียน)”

          เป็นภาคของการลงมือทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน Step by Step ซึ่งมีเป็นกระบวนการที่สำคัญมากๆเลย เพราะมันเป็นขั้นตอนที่จะทำให้น้องๆ หรือว่าใครก็ตามที่ลงมือทำตามกระบวนการนี้จะสามารถมีเงินล้านได้อย่างแน่นอน 1,000,000%

          บทเรียนที่ 10 : สร้างสิ่งที่จะนำไปแลกเงินล้าน

          บทเรียนที่ 11 : ทำการตลาด

          บทเรียนที่ 12 : บริหารเงินให้งอกเงยตลอดกาล

4)ทำไม ต้องรวยเงินล้าน?(ตอนที่ 3)

เหตุผลข้อ 3 : เพื่อสังคม และเพื่อนร่วมโลก...

          ถูกต้องแล้วครับ ถึงแม้น้องจำเป็นต้องเป็นรวยเงินล้านเพื่อตอบแทนพระคุณ บิดา มารดา.. และจำเป็นต้องรวยเงินล้านเพื่อตัวน้องและคนที่น้องรัก แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ “สังคมและเพื่อนร่วมโลก” เพราะโดยพื้นฐานของมนุษย์แล้ว มนุษย์ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ตลอดเวลา เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม นั่นเอง... “ชีวิตของน้องๆทุกท่านจะดูไร้คุณค่าลงไปทันที ถ้าน้องๆคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและครอบครัวของน้อง!เท่านั้น!”

          การใช้ชีวิตของน้องจะมีความหมายต่อโลกนี้ได้อย่างไร ถ้าน้องมัว “เห็นแก่ตัว!” เพราะฉะนั้น เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิตของน้อง น้องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแบ่งปันสิ่งสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์และทรงคุณค่าสูงสุดให้กับผู้คน สังคม และเพื่อนร่วมโลก(เหมือนที่พี่กำลังแบ่งปัน หนังสือที่มีประโยชน์และทรงคุณค่าสูงสุดนี้ให้กับน้องๆทุกท่านได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง)

          ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ ถ้า ณ วินาทีนี้ น้องยังไม่ได้รวยเงินล้าน “น้องจะช่วยเหลือผู้คน สังคมและเพื่อนร่วมโลกนี้ได้อย่างไร???” เพราะลำพังตัวเองก็ยังจะเอาไม่รอด!!!!!!

          พี่จะยกตัวอย่างให้น้องได้เห็นภาพง่ายๆว่า ระหว่างการบริจาคเงินเพื่อการกุศล มูลค่า “100 บาท” กับ การบริจาคเงินเพื่อการกุศล มูลค่า “100,000,000บาท” แบบไหนจะ “สร้างสรรค์ประโยชน์และมอบคุณค่าให้กับ ผู้คน สังคม และเพื่อนร่วมโลกได้มากที่สุด” คำตอบก็คือ เงิน “100,000,000 บาท ใช่ หรือ ไม่?????”

          น้องอย่าพยายามตำหนิ ติเตียน หรือหาข้ออ้างไปโจมตีบรรดาเศรษฐีที่บริจาคเงินให้กับมูลนิธิต่างๆมูลค่า ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน....ด้วยประเด็นที่ว่า “พวกเขาเหล่านั้นสร้างภาพ อยากได้หน้า โอ้อวด..ฯลฯ...” เพราะมันเป็นความคิดที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ริษยา อย่างรุนแรง... เพราะในความเป็นจริงแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องขึ้นไปยืนบนแท่นของเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินมูลค่า หมื่นล้าน แสนล้านแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น “เงิน มันก็แค่เศษกระดาษธรรมดาๆเท่านั้นเอง!” เมื่อไหร่ที่น้องมีเงินมากๆ ความรู้สึกอิ่มมันจะเกิดขึ้นกับน้องทันที ยกตัวอย่างง่ายๆ...

          สมมติว่า วันนี้ ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น น้องยังไม่ได้ทานอาหารอะไรเลย น้องรู้สึกหิวจนตาลาย หมดเรี่ยวหมดแรง..จนเกือบจะเดินไปไหนไม่ได้...สิ่งที่มันคุกรุ่นอยู่ในหัวสมองของน้อง ณ ขณะนั้น คือ “การทานอะไรก็ได้ ใช่ หรือ ไม่?” ยิ่งปล่อยเวลาไปนาน“น้องก็ยิ่งจะโมโหหิว ใช่ หรือ ไม่?” สิ่งที่น้องต้องการอย่างแรงกล้าที่สุด(ถึงขั้นฆ่าคนตายได้เลยถ้ามีใครมาขัดขวาง) คือ “การทานอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ” ใช่ หรือ ไม่?

          ประเด็นก็คือ “ถ้าพี่พาน้องไปร้านบุฟเฟ่ต์ ซึ่งสามารถตักอาหารทานได้ทุกอย่าง เลือกที่จะปรุงเองก็ได้ สามารถทานได้ไม่อั้น.. ทานจนน้องแน่นท้อง.. ทานอิ่มจนถึงขนาดไปไหนไม่ได้...” ถ้าเป็นแบบนี้ “น้องยังจะฝืนทานมันลงไปอีกได้หรือไม่?” คำตอบ คือ น้องจะไม่สามารถทานอาหาร ณ ตอนนั้นได้อีกเลย เพราะน้องอิ่มแล้ว..นั่นเอง

          เปรียบได้กับ “เศรษฐีผู้มีทรัพย์สินมูลค่า หมื่นล้าน แสนล้าน” ซึ่ง เงินร้อยล้าน ก็เป็นได้แค่เศษกระดาษในสายตาของพวกเขา เพราะ“พวกเขามีมันอย่างเหลือเฟือ”นั่นเอง(เหมือนกับน้องอิ่มจนทานอะไรไม่ได้อีกแล้วนั่นแหละ)เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาทำ คือ “การแบ่งปัน” นั่งเอง

          “การแบ่งปัน”นี่เอง ที่เป็นแก่นแท้ที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า “สัตว์ประเสริฐ” ประเด็นสำคัญที่สุดคือ “ยิ่งน้องแบ่งปัน น้องยิ่งจะได้กลับคืนมาร้อยเท่า พันทวี” นี่แหละคือหัวใจสำคัญสูงสุดของหนังสือเล่มนี้ และ นี่เองที่เป็นเหตุผลที่น้องต้องรีบเป็นเศรษฐี เพราะน้องจะได้ “แบ่งปันสิ่งดีๆที่มีประโยชน์และทรงคุณค่าสูงสุด”นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ เป็นเหตุผลที่น้องต้องรวยเงินล้าน เพราะน้องเกิดมาเพื่อทำภารกิจนี้.....นั่นเอง